เด็ก ๆ แถววัดสะแก เคยมีเหตุการณ์ที่เด็กแขวนลูกแก้วจักรพรรดิ์ตกน้ำแล้วไม่จม ทำให้เป็นที่ต้องการของชาวบ้าน อีกทั้งว่ากันว่าขอได้ตามใจนึก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลูกแก้วสารพัดนึก

 

หลวงตาม้าเป็นผู้สืบทอดวิชาการสร้างพระผงจักรพรรดิ์ (พระผงกรรมฐาน) และลูกแก้วจักรพรรดิ์นี้มาจากหลวงปู่ดู่ แต่เนื่องจากการทำลูกแก้วจักรพรรดิ์ด้วยผงปูน ต้องใช้วิธีปั้นทีละลูก ใช้เวลาทำมาก และเนื่องจากในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถผลิตลูกแก้วสำเร็จ และหาซื้อได้ง่าย ลูกศิษย์จึงซื้อลูกแก้ว

เหล่านั้นมาให้หลวงตาอธิษฐานจิตให้เป็นลูกแก้วจักรพรรดิ์ ซึ่งหลวงตาได้บอกว่ามีคุณสมบัติเหมือนลูกแก้วจักรพรรดิ์ที่ทำจากผงปูนทุกประการ สามารถใช้แทนกันได้ ด้วยเหตุนี้ ลูกแก้วจักรพรรดิ์ของหลวงตาจึงมีแบบชนิดที่เป็นผงปูนปั้น กับ ชนิดที่เป็นลูกแก้วสำเร็จ

 

ลูกแก้วจักรพรรดิ์นี้ สามารถนำมาใช้บูชาติดตัว ใช้กำเพื่อช่วยภาวนาทำสมาธิ ใช้อธิษฐานเพื่อทำน้ำมนต์ หรือใช้ในการอธิษฐานเพื่อปรับภพภูมิก็ได้ เช่นเดียวกับพระผงกรรมฐานทุกประการ ในกรณีที่ใช้เพื่อการปรับภพภูมิ ทำให้ผู้ที่ทำการแผ่บุญไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้น ๆ บ่อย ๆ แต่จะใช้ในการวางลูกแก้วไว้ในสถานที่นั้นแทน แล้วอธิษฐานขอให้ลูกแก้วจักรพรรดิ์แผ่บุญออกไปเองโดยอัตโนมัติ เหล่าวิญญาณที่ประจำอยู่แถวนั้น หรือเร่ร่อนผ่านไปยังสถานที่เหล่านั้น เมื่อเห็นแสงสว่างแห่งบุญที่เปล่งออกจากลูกแก้ว 

ก็จะสามารถโมทนาบุญนี้ได้ตลอด

 

การวางลูกแก้วตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อปรับภพภูมิ จึงเป็นการสงเคราะห์สัตว์โลกทั้งหลายไม่มีประมาณ และเมื่อมีการขยายพื้นที่ในการวางลูกแก้วกว้างขวางออกไปเพียงไร พื้นที่ในการแผ่กระแสบุญบารมีก็จะยิ่งกว้างไกลออกไปเพียงนั้น

 

คำอธิษฐานในการวางลูกแก้วเพื่อปรับภพภูมิ (ตัวอย่าง)

 

ให้ตั้งจิตนึกถึงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แล้วอธิษฐาน "ข้าพเจ้า (เอ่ยนาม) ขอตั้งสัจจะอธิษฐานวางลูกแก้ว

จักรพรรดิ์เพื่อใช้ในการแผ่บุญบารมีไปทั้งสามแดนโลกธาตุ ณ (ชื่อบริเวณที่วางลูกแก้ว) ขอให้เทพพรหม 

ทั้งหมด เทวดา รวมทั้งวิญญาณที่ประจำหรือผ่านมาในบริเวณนี้ทั้งหมด ที่ได้เห็นแสงแห่งบุญนี้ ให้โมทนาบุญกับหลวงปู่ดู่นี้ได้ตลอดด้วยเทอญ