พระสมเด็จกลีบบัว วัดบวรนิเวศวิหาร จังหวัดกรุงเทพ สร้างปี พ.ศ. 2511 เนื้อผงวัดพลับ ( ผงล้วน ๆ )  รหัสSK6107
พระสมเด็จกลีบบัว วัดบวรฯ พิมพ์วัดพลับปลุกเสกโดยพระครูบาอาจารย์สายอิสาณตั้งแต่ป๊ ๒๕๑๑ จนถึง๒๕๕๒ ผ่านการพุทธาภิเศกมากกว่า๑๐๐ครั้ง ทั่วประเทศ เก็บไว้บูชานะครับเป็นมงคลยิ่งนัก สร้างน้อยหายากครับ

  สมเด็จกลีบบัว ปี2511 

พระอายุ ๕๐ ปี ระดับชั้น 

“สมเด็จสร้าง” ออกจาก “วัดบวรฯ” 

พระสมเด็จกลีบบัว พิมพ์วัดพลับ สมเด็จพระสังฆราช วัดบวร ปี ๒๕๑๑

   ที่มา : นาวาตรี กวี รัตนวโรภาส นิมิตเห็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ในนิมิตนั้น เจ้าประคุณสมเด็จฯ แจ้งว่าที่มาพบเพราะท่านมีความประสงค์จะให้สร้างพระผงให้มากที่สุด แล้วนำไปถวายวัดใดก็ได้

จึงปรึกษากับ นายอุดม รัมมะวาสน์ , คุณเทพ ขาวมงคล และ พ.ต.อ. นายแพทย์ปราโมทย์ ศรศรีวิชัย ในการสร้าง และได้ตกลงกันว่าจะสร้างถวาย หลวงปู่อ่อง ยโสธโร วัดใหม่พิเรนทร์

   มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้สร้าง 

๑. ผงวิเศษวัดพลับ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) พระอาจารย์พุฒ วัดใหม่พิเรนทร์ ได้จากหลานชาย พระสังวรานุวงศ์เถร (หลวงปู่ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร เมื่อปี ๒๕๐๘

๒.ผงวิเศษและชิ้นส่วนพระผงสมเด็จวัดระฆังฯ หลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้ตั้งแต่จำพรรษาอยู่วัดพระยาทำวรวิหาร กรุงเทพฯ

๓. ผงวิเศษ 5 อย่าง คือ ผงอิทธิเจ ผงปัตถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห หลวงปู่อ่อง ยโสธร ได้มาจากหลวงปู่คง พุทธสร วัดถนนหักใหญ่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา

๔.ผงวิเศษดอนเจดีย์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว (ขรัวตาคง) อาจารย์ ม.ร.ว. สิทธิประภัทร เกษมสันต์ ถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร ที่วัดอัมพวา กรุงเทพฯ เมื่อปี ๒๔๙๒

๕.ผงยาวิเศษพระฤาษีพันปี หลวงพ่อศรีทัต วิปัสสโน วัดหนองสามหมื่น อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้ถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร จำนวนหนึ่ง และไปนำมาจากถ้ำบนเขาพังเหย จังหวัดลพบุรี เมื่อปี ๒๕๐๖

๖. ผงวิเศษและชิ้นส่วนพระกรุ วัดอัมพวา กรุงเทพฯ หลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้จำนวนมากขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวา

๗.ผงเกสรดอกไม้ จาก นาวาอากาศตรีหญิง เผ่าทอง เมนะรุจิ (ยศขณะนั้น) นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร เมื่อปี 2508

๘.ผงกรุพระผงสมเด็จบางขุนพรหม และวัดระฆัง จากหลวงพ่อโอภาสี สวนพุทธบูชา บางมด กรุงเทพฯ

๙.ผงวิเศษจากแม่ชีสายฯ จากจังหวัดอยุธยา

⭕️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️️พิธีพุทธาภิเษก

1.วันที่ ๖-๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๑ ณ วัดประสาทบุญญาวาส

2. วันที่ ๒๘-๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๑ ณ วัดชิโนรส บางกอกน้อย โดยมี หลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นประธานพิธี

3.วันที่ ๒๒-๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ รวม ๑๐ วัน ๑๐ คืน ณ วัดชิโนรส

 เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ได้ถวายให้หลวงปู่อ่อง ภาวนาอธิษฐานจิต ขอพุทธบารมีเป็นเวลายาวนานถึง ๕ ปี จากนั้นหลวงปู่อ่องฯ มรณภาพลงด้วยอาพาธ ก่อนมรณภาพ ๑ เดือน ท่านได้สั่งให้นาวาโท กวี รัตนวโรภาส และกำชับว่าให้เก็บรักษาไว้ให้ดีๆ

 ต่อมาเมื่อนาวาโท กวี รัตนวโรภาส ถึงแก่มรณะ น.ส. ทิพอาภา รัตนวโรภาส บุตรสาว จึงนำพระดังกล่าว น้อมถวายเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งได้รับไว้ และนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดบวรฯ เกือบ ๔๐ ปี และมากกว่า ๑๐๐ ครั้ง

 เมื่อวาระครบ ๘ รอบ ในปี ๒๕๕๒

สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช โปรดให้สำนักเลขานุการฯ จัดพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้ง เมื่อ ๑๕ พ.ค. ๕๒ โดยให้นิมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นประธานจุดเทียนชัย