หลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอมรินทราราม กทม. เนื้อผงผสมว่าน ปี2539 มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัด

หลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอมรินทราราม กทม. เนื้อผงผสมว่าน ปี2539 มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัด
หลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอมรินทราราม กทม. เนื้อผงผสมว่าน ปี2539 มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอมรินทราราม กทม. เนื้อผงผสมว่าน ปี2539 มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอมรินทราราม กทม. เนื้อผงผสมว่าน ปี2539 มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอมรินทราราม กทม. เนื้อผงผสมว่าน ปี2539 มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัด
หมวดหมู่ # พระพุทธศักดิ์สิทธิ์
ราคา 500.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 9 พ.ย. 2559
อัพเดทล่าสุด 15 มี.ค. 2565
คงเหลือ 1 ชิ้น
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

หลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดอมรินทราราม กทม. เนื้อผงผสมว่าน ปี2539 มาพร้อมกล่องเดิมๆจากวัด

ประวัติหลวงพ่อโบสถ์น้อยไม่ปรากฏหลักฐานความเป็นมาแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างใน สมัยใด แต่จากคำบอกเล่าสืบต่อกันมาว่า เดิมหลวงพ่อโบสถ์น้อยเป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองสำริด มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่จะมีขนาดเท่าใดและเป็นพระพุทธรูปสมัยใดนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด สันนิษฐานว่าหลวงพ่อโบสถ์น้อยคงจะเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจึงมีความเลื่อมใสศรัทธาและอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ แต่ด้วยเหตุที่องค์พระพุทธรูปมีขนาดเล็ก ไม่สมกับพระอุโบสถที่มีความกว้างขวางใหญ่โต ดังนั้นชาวบ้านจึงได้คิดหากลอุบายด้วยการปั้นปูนพอกทับอำพรางองค์จริงของพระพุทธรูปเอาไว้ เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสมกับพระอุโบสถ ซึ่งขณะนั้นมีขนาดยาวถึง 4 ห้อง

ครั้นต่อมาถึง พ.ศ. 2441 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ตัดเส้นทางรถไฟสายใต้ เริ่มจากปากคลองบางกอกน้อยไปทางนครปฐม มีผลให้พื้นที่ด้านหน้าวัดอมรินทรารามตรงปากคลองบางกอกน้อยถูกตัดตอนเป็นทางรถไฟ วางรางรถไฟเฉียดผ่านพระอุโบสถของวัดจนถึงกับต้องรื้อด้านหน้าของพระอุโบสถออกไปเสียห้องหนึ่ง เหลือเพียง 3 ห้องเท่านั้น ทำให้พระอุโบสถมีขนาดเล็กลง

ชาวบ้านจึงเรียกว่า “โบสถ์น้อย” และคงจะเรียกชื่อพระประธานในพระอุโบสถโดยอนุโลมว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย”ด้วยเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเรื่องเล่ากันถึงความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อโบสถ์น้อยที่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์แก่ประชาชนโดยทั่วไปกล่าวคือ

 

เมื่อครั้งที่นายช่างฝรั่งมาส่องกล้องเพื่อดำเนินการตัดทางสำหรับวางรางรถไฟนั้นเมื่อส่องกล้องแล้ว พบว่าเส้นทางนั้นจะต้องถูกพระอุโบสถและองค์พระพุทธรูปพอดี ในคราวนั้นกล่าวกันว่า ได้เกิดอาเพศเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นจนนายช่างฝรั่งไม่สามารถที่จะทำการตัดเส้นทางให้เป็นแนวตรงได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่เป็นแนวอ้อมโค้งดังปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน

ต่อมาเมื่อเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพาขึ้น เครื่องบินข้าศึกได้มาทิ้งระเบิดเพลิงเพื่อทำลายย่านสถานีรถไฟธนบุรี แต่เนื่องจากสถานีรถไฟกับวัดมีเขตติดต่อกัน จึงทำให้ปูชนียวัตถุสถานต่างๆ ภายในวัดอมรินทรารามถูกไฟเผาทำลายเป็นส่วนมาก แม้แต่พระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโบสถ์น้อยก็ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ด้วย

 

ดังปรากฏว่ามีหลุมระเบิดอยู่รอบๆ พระอุโบสถ ในส่วนของเชิงชายพระอุโบสถก็ถูกไฟไหม้ แต่ในที่สุดไฟก็ดับได้เองเหมือนปาฏิหาริย์

และจากความรุนแรงของลูกระเบิดที่ตกลงมารอบพระอุโบสถครั้งนี้ เป็นผลให้พระเศียรของหลวงพ่อโบสถ์น้อยที่ปั้นด้วยปูนถึงกับหักพังลงมา ในครั้งนั้นทางวัดได้นำพระเศียรของหลวงพ่อโบสถ์น้อยไปฝากไว้ยังวัดอรุณราชวรารามเป็นการชั่วคราว

เมื่อสงครามยุติลง วัดอมรินทรารามอยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมมากทางวัดจึงได้เริ่มดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุสถานต่างๆ ให้กลับมีสภาพดีดังเดิม ส่วนพระอุโบสถหลังเก่าอยู่ในสภาพเสียหายมาก จึงได้ดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นแทนใน พ.ศ. 2504 พระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งเรียกกันว่า “โบสถ์น้อย” นั้น ยังคงเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโบสถ์น้อยดังเดิม

และในส่วนการซ่อมแซมองค์พระพุทธรูปนั้น ทางวัดได้อัญเชิญพระเศียรของหลวงพ่อโบสถ์น้อยกลับคืนมา เพื่อหวังที่จะต่อเข้ากับองค์พระพุทธรูป แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าพระเศียรของหลวงพ่อแตกร้าวเป็นส่วนใหญ่ จึงตกลงที่จะปั้นพระเศียรของหลวงพ่อขึ้นใหม่โดยให้คงเค้าพระพักตร์เดิมไว้ เล่ากันว่าครั้งนั้นทางวัดได้เชิญบรรดาท่านผู้เฒ่าในบ้านช่างหล่อมาหลายท่าน เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการดำเนินการปั้นพระเศียรหลวงพ่อขึ้นใหม่ ในที่สุดจึงเห็นควรให้ นายช่างโต ขำเดช เป็นผู้รับผิดชอบในการปั้นพระเศียร เนื่องจากเป็นผู้ที่เคยอุปสมบทในวัดอมรินทรารามมาหลายพรรษา จึงมีความคุ้นเคยในเค้าพระพักตร์หลวงพ่อโบสถ์น้อยมากกว่าผู้ใด

ต่อมาใน พ.ศ. 2523 ได้มีการบูรณะหลวงพ่อโบสถ์น้อยขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากองค์พระพุทธรูปมีสภาพชำรุดหลายแห่ง ครั้งนั้นได้ทำการฉาบปูนลงรักปิดทองใหม่หมดทั้งองค์ พร้อมกันนี้ก็ได้บูรณะพระอุโบสถโดยการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาและซ่อมแซม ส่วนต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมในคราวเดียวกันเมื่อแล้วเสร็จจึงได้มีการเฉลิมฉลองสมโภช
 


ประเพณีงานนมัสการหลวงพ่อโบสถ์น้อยประจำปีก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น จะจัดในเดือนเมษายน (ราวกลางเดือน 5) แต่ในปัจจุบันกำหนดให้วันที่ 29 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันนมัสการประจำปีของหลวงพ่อโบสถ์น้อย เพื่อระลึกว่าในวันดังกล่าว ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่หลวงพ่อโบสถ์น้อยถูกภัยทางอากาศ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2

ในเรื่องของการปัดระเบิดนั้น มีเสียงร่ำลือจากผู้เฒ่าผู้แก่ย่านอรุณอมรินทร์ เล่ากันว่าหลวงพ่อโบสถ์น้อย ท่านใช้มือของท่านปัดระเบิดให้ไปลงที่แม่น้ำ ไม่ให้ระเบิดลงบ้านผู้คน และเชื่อว่าเหตุการณ์หลังจากระเบิดในครั้งนั้น ทำให้มือและแขนของหลวงพ่อโบสถ์น้อยร้าวไปข้างหนึ่ง และการที่เศียรหลุดก็เป็นการบรรเทาเคราะห์แทนชาวบ้าน

กิตติคุณ บารมีของหลวงพ่อโบสถ์น้อยนั้น ชาวฝั่งธนต่างเคยมีประสบการณ์กันถ้วนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัดเป่าโรคภัย หรือแม้แต่เรื่องความแคล้วคลาดก็ไม่เป็นรองใคร จนเป็นอันรู้กันทั่วไปว่า หากหาสมเด็จวัดระฆังมาครอบครองไม่ได้ ก็พกเหรียญหลวงพ่อโบสถ์น้อยไว้ สรรพคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย

วิธีการชำระเงิน

วิธีสั่งซื้อและชำระเงิน
1.)กดสั่งซื้อทางระบบตะกร้าในเวบ
2.)สั่งซื้อทางไลน์ได้ครับ โดยเพิ่มเพื่อนที่
LINE ID : sun456 หรือเพิ่มเพื่อนที่เบอร์โทร:0814525191 แล้วส่งรูปสินค้าที่ต้องการส่งมาทางไลน์เพื่อสั่งซื้อได้เลยครับ
สนใจtel:081-452-5191
กฤตธัช : email=new15555@gmail.com 
LINE ID= sun456 
1) ธ.กสิกรไทย/ เซ็นทัรลพระราม3
a/c. no. 748-2-45099-1 ออมทรัพย์ /กฤตธัช
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 ออมทรัพย์

CATEGORY

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม6,170,224 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด4,574,803 ครั้ง
เปิดร้าน31 ส.ค. 2556
ร้านค้าอัพเดท23 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

081-452-5191
พูดคุย-สอบถาม